อุตสาหกรรมรถยนต์ถือเป็นธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาลมากที่สุดในโลก และแน่นอนว่าการที่แบรนด์แต่ละยี่ห้อจะดังขึ้นมาได้จะต้องผ่านงบค่าโฆษณาเป็นมูลค่ามหาศาล อย่างค่าย General Motors ที่จ่ายงบให้กับทีมโฆษณาของบริษัทกว่า 928 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือถ้าแปลงเป็นเงินไทยก็ประมาณ 29,741,604,445 บาท ลองคิดดูสิว่าเงินจำนวนนี้สร้างโรงงานได้อีกกี่แห่งกัน แต่ถ้าสินค้าเขาขายไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไรเมื่อมีโรงงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นหลายบริษัทจึงทุ่มเงินกันอย่างไม่อั้นเพื่อแข่งไอเดียโฆษณากับบริษัทคู่แข่ง ซึ่งในปี 2013 เจ้าเก่าอย่าง GM เสียเงินไปมากกว่า 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับตัวเลขหลักนี้ไม่ได้ระคายเคืองกับยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์เลย เมื่อนำตัวเลขนั้นมาดูกันใกล้ ๆ พบว่ามันเป็นเพียง 3.54 เปอร์เซ็นของกำไรบริษัท ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขา
ในปี 2013 บริษัทรถยนต์ Ford ก็เสียเงินไปมหาศาลไม่แพ้กัน โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 141,026,412,721 บาท จากกำไรที่ทำได้ทั้งหมดของบริษัท 139.37 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปีเดียวกันก็มีบริษัท Fiat Chrysler ทุ่มเงินกว่า 2.7 พันลานเหรียญในโฆษณา คิดเป็น 3.82 เปอร์เซ็นของกำไร มาถึงค่ายรถยนต์ที่คุ้นหูคนไทยเป็นอย่างดีอย่างยี่ห้อ Toyota ที่ขายดีในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกับไทย จนติด 1 ใน 10 อันดับ โดยคิดค่าโฆษณาที่บริษัทลงทุนไปกว่า 600 ล้านเหรียญในช่วงต้นปี 2014
อุตสหากรรมยานยนต์ถือเป็นอันดับที่ 3 ของอุตสหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดบนโลกเรา จากการวิจัยของหน่วยพัฒนา และนักวิจัยในปี 2013 Toyota เสียเงินไปกว่า 8.1 พันล้านเหรียญให้กับหน่วยพัฒนา R&D ส่วน General Motor ก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน โดนไปกว่า 7.2 พันล้านเหรียญในปีเดียวกัน สำหรับ Toyota ที่เสียเงินเป็นจำนวนมากในแผนกวิจัยเพราะต้องเร่งความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ของตนเองในต่างประเทศให้ทัดเทียมกับคู่แข่งในตลาดยานยนต์
ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์แข่งขันกันสร้างรถยนต์จำนวนมาก ด้วยกรรมวิธีและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในขณะเดียวกันรถยนต์ต้องมีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย นวัติกรรมเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จทั้งหมดของอุตสหกรรมยานยนต์ ในรถยนต์ระดับ high-end จะมีชุดไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีการเขียนข้อมูลกว่า 100 ล้านบรรทัด แต่เมื่อเทียบกับชุดควบคุมของอากาศยานขนส่ง Boeing 787 ที่มีเพียงชุดคำสั่งแค่ 6 ล้านชุดเท่านั้น คุณจะเห็นได้ว่าการผลิตรถยนต์คันหนึ่งนั้นมีความซับซ้อนอย่างมาก ต้องมีการวิจัยเป็นเวลานานอย่าง Ford F-150 ใช้เวลากว่า 5 ปีกว่าจะพัฒนาเสร็จ กว่า 100 พันล้านเหรียญที่อุตสาหกรรมทำได้ทั่วโลกในปี 2013 โดยเฉพาะส่วนใหญ่ที่เสียกำไรโดยเฉลี่ยประมาณ 3 – 5 เปอร์เซ็นไปกับการโฆษณาของพวกเขา